แยมมะม่วงนั้นคล้ายกับมะม่วงกวน แต่ส่วนประกอบที่สำคัญในการทำแยม มีดังนี้ ผลไม้ ( มะม่วง ) ควรใช้ผลที่ค่อนข้างสุก แต่ไม่สุกจัด หรือจะใช้ทั้งผลมะม่วงสุกและผลค่อนข้างดิบผสมกันก็ได้ เพคติน ในเนื้อมะม่วง ( ผักและผลไม้ ) จะมีเพคตินอยู่สิษณะคล้ายวุ้น กล่าวคือเมื่อผลไม้ ถูกความร้อน ( โดยการต้ม ) สารเพคดินจะถูกสกัด ออกมา ในมะม่วงมีปริมาณเพคตินอยู่บ้าง แต่ไม่พอเพียงต่อการทำแยม ดังนั้นต้องเติมเพคตินลงไปด้วยเพื่อให้ได้ปริมาณกรดและน้ำตาลที่เหมาะสม น้ำตาล ตามมาตรฐานแยมจะต้องทำมาจากเนื้อผลไม้ ( มะม่วง ) 45 ส่วน และน้ำตาล 55 ส่วน กรด เนื่องจากมะม่วงมีกรดไม่เพียงพอ ( มะม่วงใช้ทำแยม ) จึงต้องเติมกรดซิตริก , น้ำมะนาวหรือกรดเพคติน เพื่อให้ลักษณะเนื้อของแยมอยู่ตัวดีที่สุด คือที่ pH 2.6 - 3.4 และกรดเหล่านี้ยังช่วยมิให้น้ำตาลตกผลึกอีกด้วย การเติมกรดต้องเติมขณะที่เคี่ยวแยมได้ที่แล้ว หากเติมกรดก่อนหรือต้มนานเกินไปกรดนี้จะทำให้เพคตินสลายตัวจนสูญเสียคุณสมบัติการอยู่ตัว สี เมื่อเคี่ยวแยมได้ที่แล้วหากจะใส่สีก็ให้ใส่ตอนนั้น และสีที่ใส่ต้องเป็น สีผสมอาหารที่รับประทานได้ไม่เป็นอันตราย
1. กรดมะนาว น้ำ เนื้อมะม่วง ควรเติมกรดมะนาวน้ำลงในเนื้อมะม่วงและกวนให้เข้ากัน
2. ต้ม ใช้ไฟอ่อนในการต้มจนเกือบเดือด ต้องคนตลอดเวลาจนเนื้อมะม่วงข้น
3. เติมน้ำตาลทรายทีละน้อยและคนตลอดเวลาจนน้ำตาลทรายละลายหมด
4. เพิ่มไฟให้แรงขึ้นจนเดือด
5. ดูการเกิดเจล ใช้พายตักขึ้นดูลักษณะการไหลเป็นแผ่น ควรช้อนฟองที่เกิดขึ้นทิ้ง
6. บรรจุแยมลงขวด ควรฆ่าเชื้อจุลิทรีย์ขวดก่อนบรรจุ
ต้นทุนการผลิตต่อ 1 สูตร 51 บาท ( เพาะต้นทุนผันแปร )
ปริมาณแยมมะม่วงที่ได้ 700 กรัม